ข้อมูลประกาศ 010080
  • 30,900 บาท
ข้อมูลติดต่อ
  • 99worldtravel
  • เขตชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร
  • 02-3314146,0922518139
  • 24 ก.ย. 2557 13:45 น.

99KGH-UL-SRILANKA-6D4N

สินค้ารายการนี้: ท่องเที่ยว ที่พัก โปรแกรมทัวร์
กำหนดการเดินทาง
วันที่: 28 ต.ค. – 02 พ.ย. 57 30,900.-
วันที่: 02 – 07 ธ.ค./ 05 – 10 ธ.ค. 57 ( วันหยุด วันพ่อแห่งชาติ ) 32,900.-
วันที่: 23 – 28 ธ.ค./ 26 – 31 ธ.ค. 57 34,900.-
วันแรก กรุงเทพฯ–ฮัมบันโตตาร์-ยาลา-อุทยานแห่งชาติยาลา
05.00 น. คณะมาพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 8 เคาน์เตอร์ S (เช็คอินกรุ๊ปของสายการบิน Srilankan Airlines ) โดยมีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวก
07.25 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮัมบันโตตาร์ ( Hambantota ) ประเทศศรีลังกา โดยสายการบิน ศรีลังกา แอร์ไลน์( Srilanka Airlines) เที่ยวบินที่ UL405 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
09.20 น. เดินทางถึง สนามบิน Mattala Rajapaksa International Airport เมืองฮัมบันโตต้า ( Hambantota ) ประเทศศรีลังกา *เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง (เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พักเมืองยาลา (Yala) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
บ่าย จากนั้นให้ท่านเช็คอินเข้าห้องพัก ให้ท่านได้เปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมตัวไปชมเหล่าบรรดาสัตว์ป่าหายากที่อุทยานแห่งชาติยาลา
15.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติยาลา (Yala National Park) ชมความสวยงามน่าทึ่งของอุทยานสัตว์ป่าที่ยิ่งใหญ่แห่งของศรีลังกา มีเนื้อที่ประมาณ 126,786 เฮกตาร์ สถานที่แห่งนี้ก็ยังเป็นสวรรค์ของบรรดาสัตว์ป่ามากมายหลายสายพันธุ์ นำท่านชมวิถีชีวิตของบรรดาสัตว์ป่าหายากอย่างเช่น เสือดาว, กวางดาว, พังพอน, ช้าง, หมูป่า, ควายป่า และ นก กว่า 130 สายพันธ์ และชื่นชมความงดงามตามธรรมชาติของอุทยานแห่งนี้
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
ที่พัก  Jetwing Yala Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า, เมืองเนกัมโบ
วันที่สอง ยาลา-นูวารา เอลิยา-ไร่ชาซีลอน-แคนดี้
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือง นูวารา เอลิยา (Nuwara Eliya) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เมือง นูวารา เอลิยา (Nuwara Eliya) เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงประมาณ 2000 เมตร ในยุคที่อังกฤษได้เข้ามาปกครองศรีลังกาเป็นเมืองขึ้น เมืองแห่งนี้ชาวอังกฤษนิยมมาสร้างบ้านพักตากอากาศเพื่อใช้ในช่วงฤดูร้อน เพราะมีทัศนียภาพสวยงามและมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ตึกรามบ้านช่องต่างๆล้วนเป็นแบบฉบับของชาวอังกฤษทั้งสิ้น จนที่ได้สมญานามว่า “ลิตเติ้ล อิงแลนด์” ต่อมาหลังจากศรีลังกาได้รับเอกราชแล้ว ชาวอังกฤษยังได้ทิ้งวัฒนธรรมการดื่มชาไว้ที่นี่อีกด้วย ปัจจุบันเมือง นูวารา เอลิยา เป็นแหล่งปลูกชาส่งออกและมีธุรกิจโรงผลิตชายิ่งใหญ่และมากที่สุดในประเทศ และยังมีชาซีลอนวิเศษอีกหลายแบบที่ชวนให้ไปลิ้มลอง จากนั้นทางนําท่านชม ไร่ชาซีลอน,โรงงานผลิตชา ที่ขึ้นชื่อของศรีลังกาสินค้าส่งออกอันสําคัญของศรีลังกา เข้าชม กระบวนการผลิตชาที่ขึ้นชื่อในโรงงาน พร้อมเลือกซื้อชา ที่มีให้ท่านเลือกมากมาย
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมือง แคนดี้ ( Kandy ) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เมืองแคนดี้ เป็นเมืองที่อยู่บนยอดเขา สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 500 เมตร เป็นเมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของศรีลังกา เมืองนี้เคยเป็นที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหล ก่อนการยกดินแดนให้กับจักรวรรดิอังกฤษใน ค.ศ. 1815 หลังจากที่ได้ต่อต้านชาวโปรตุเกส และชาวดัตช์มานานถึงสามศตวรรษ สุดท้ายก็ต้องยอมพ่ายแพ้ไปในที่สุดเมืองแคนดี้ เดิมเรียกว่า ‘ศิริวัฒนานคร’ หรือ ‘สิงหขันธนคร’ ชาวเมืองสิงหลเรียก ‘ขันธะ’ หมายถึงกองหินหรือภูเขา เมื่อฝรั่งเข้าครองเมือง ขันธะ จึงออกสำเนียงตามฝรั่งว่า แคนดิ หรือ แคนดี้นั่นเอง
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
ที่พัก  Earl’s Regent Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า, เมืองแคนดี้
วันที่สาม วัดพระเขี้ยวแก้ว-ดัมบุลลา-วัดถ้ำดัมบุลลา-เขาสิกิริยา-ดัมบุลลา
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นนำท่านสู่ วัดดาลาดา มาลิกาวา ( Dalada Maligawa Temple ) หรือ วัดพระเขี้ยวแก้ว กราบนมัสการ พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว (The Sacred Tooth Relic of the Buddha) พระทันตธาตุองค์นี้เป็นพระทันตธาตุเบื้องซ้ายของของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเพียงองค์เดียวที่ปรากฏบนโลกมนุษย์ โดยมีหลักฐานรองรับความถูกต้องตรงตามพระคัมภีร์มหาวังศา นับเป็นสิ่งสักสิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่โบราณ และเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวศรีลังกา พระธาตุเขี้ยวแก้วนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ในเจดีย์ทองคำ และผอบทองคำ 7 ชั้น ประดิษฐานในห้องกระจกกันกระสุนอย่างแน่นหนา และไม่เคยเสด็จออกนอกประเทศเลยนับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 เพราะเชื่อกันว่า หากเมื่อใดพระเขี้ยวแก้วถูกนำออกนอกเกาะลังกาแล้ว จะนำภัยพิบัติมาสู่ประเทศชาติ ทั้งยังเชื่อด้วยว่า หากเมื่อใดที่เกิดทุกข์ภัยขึ้น การเปิดอัญเชิญพระธาตุเขี้ยวแก้วออกมาให้ผู้คนสักการะบูชา จะสามารถขจัดเภทภัยต่างๆได้ *** กรุณาเตรียมชุดขาว จากนั้นนำท่านเดินทางไปสู่เมือง ดัมบุลลา (Dambulla) จากนั้นนำท่านชม วัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple) วัดแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2534 ถือเป็นมรดกโลกแห่งล่าสุดในศรีลังกา สร้างโดยพระเจ้าวาลากัมบา หรือพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย พระองค์ทรงเคยพำนักในถ้ำที่ดัมบูลลา ช่วงที่พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราชปุระ เพื่อเป็นการตั้งหลักก่อนที่จะรวบรวมไพร่พลกลับไปรบกันอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อพระองค์ทรงรบชนะ และเสด็จกลับขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ทรงสร้างวิหารศิลาภายในถ้ำแห่งนี้ ภายในมีถ้ำทั้งหมด 5 ถ้ำด้วยกันมีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันออกไป โดยภายในแต่ลำถ้ำจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานทั้งหมด 153 องค์, รูปปั้นกษัติรย์ 3 องค์ และ รูปปั้นของเทวีและเทพในศาสนาฮินดูอีก 4 องค์
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สิริกายา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที นำท่านเดินทางสู่ เขาสิกิริยา (Sigiriya Rock) นำท่านเข้าชม พระราชวังลอยฟ้าสิกิริยา หรือที่รู้จักในนาม ภูเขาสิงโต (Lion Rock) หรือ แท่นศิลาราชสีห์ ศาสนสถานลอยฟ้าแห่งศรีลังกา สิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สร้างโดยกษัตริย์กัสสปะ ในสมัยศตวรรษที่ 5 พระเจ้ากัสสปะให ้สิกิริยาเป็นทั้งเมือง พระราชวัง พระราชอุทยาน และป้อมปราการเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู ประกอบด้วยคูรอบป้อมปราการ 3 ชั้น มีแท่นศิลายักษ์สูง 500 ฟุต เป็นหินผาที่เกิดจากภูเขาไฟในอดีต เหมือนก้อนหินยักษ์วางอยู่บนที่ราบ สามารถมองเห็นได้ไกลจากรอบด้านมีความสูงจากพื้น 370 เมตร นำท่านพิสูจน์ความมหัศจรรย์ของพระราชวังบนยอดเขา กับบันไดเวียนนับ 2,000ขั้น ชมภาพเขียนสีเฟรสโก เป็นภาพนางอัปสรสวรรค์ที่มีอายุพันกว่าปี, อ่างเก็บน้ำโบราณ, ป้อมปราการ หรือ ประตูสิงโต บนยอดศิลาจะพบซากปรักหักพังของรากฐานพระราชวังอันยิ่งใหญ่ในอดีต ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองสิกิริยาแบบ 360 องศา จากนั้นนำท่านเดินทางไปสู่เมือง ดัมบุลลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
ที่พัก  Green Paradise Resort ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า, เมืองดัมบุลลา
วันที่สี่ ดัมบุลลา-วัดกัลยานี-วัดคงคาราม-โคลอมโบ
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือง โคลอมโบ (Colombo) ใช้เวลาเดดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
บ่าย นำท่านสู่ วัดกัลยาณี (Kelaniya Temple) ถือเป็นวัดประจำเมืองที่ชาวศรีลังกาให้ความเคารพอย่างสูงสุด เป็นวัดที่ชาวศรีลังกาเชื่อว่า พระพุทธเจ้าได้ทรงเคยเสด็จมาประทับที่วัดนี้ 3 ครั้ง เป็นวัดใหญ่นิกายสยามวงศ์ ภายในห้องวิหารของวัดกัลณียานั้น มีจิตรกรรมฝาผนังที่มีความสวยงาม เนื้อหาของจิตรกรรมฝาผนังวัดกัลณียานั้นเป็นเรื่องราวในพุทธประวัติ ชาดก และตำนานต่างๆ เช่น ภาพเจ้าชายทันตกุมาร กับเจ้าหญิงเหมมาลา อัญเชิญพระทันตธาตุ(พระเขี้ยวแก้ว)จากอินเดียมาลังกา ภายในวัดแห่งนี้ มีต้นโพธิ์ใหญ่ 1 ใน 32 ต้น ที่แยกหน่อมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่เมืองอนุราธปุระ จากนั้นนำท่านชม วัดคงคาราม (Gangaramaya Temple) เป็นวัดของนิกายสยามวงศ์ ภายในมีพระอุโบสถที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ กำลังโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ส่วนรายล้อมไปด้วยพระสาวก เต็มไปด้วยพระพุทธรูปและพระบริวาร ประดับประดาด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง รูปปั้นเทวดาที่งดงาม นอกจากนี้ที่วัดคงคารามยังมีพิพิธภัณฑ์สำหรับเก็บรักษาโบราณวัตถุ และสิ่งมีค่าต่าง ๆ ที่ผู้ศรัทธาจากต่างแดนนำมาบริจาคไว้มากมาย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
ที่พัก  Ozo Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า, เมืองโคลอมโบ
วันที่ห้า โคลอมโบ-กอลล์-ป้อมปราการเมืองกอลล์-วัดศรีปรมนันทะ-โคลัมโบ-วัดทีปทุตตมาราม-อิสระช้อปปิ้ง-สนามบิน
เช้า  บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลล์ (Galle) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นเมืองชายทะเลอยู่ทางใต้ห่างจากกรุงโคลัมโบ 115 กิโลเมตร เป็นเมืองท่าที่สาคัญของศรีลังกา เคยเป็นศูนย์กลางการบริหารของอาณานิคมดัทช์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ถึงปลายศตวรรษที่ 18 จากนั้นนำท่านชม ป้อมปราการเมืองกอลล์ (Galle Fort) เป็นป้อมปราการที่สร้าง ในสมัยชาวดัทช์เข้าครอบครองศรีลังกา ในปี 1663 สร้างไว้เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันผู้บุกรุกและภัยธรรมชาติจากทางทะเล ป้อมปราการแห่งนี้มีลักษณะสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงาม ทั้งภายในและภายนอกป้อม บริเวณรอบๆภายในกำแพง จะมีวัดของชาวพุทธ, โบสถ์ของชาวคริสต์ และมัสยิดของชาวมุสลิม อีกทั้งยังมี สนามกีฬา รวมทั้งสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่สวยงามสไตล์ยุโรป ป้อมแห่งนี้ยังเป็นต้นแบบของการสร้างป้อมปราการแห่งอื่นๆ อีกด้วยปัจจุบัน ป้อมปราการดังกล่าวยังคงอยู่และเป็นมรดกโลกของ UNESCO จากนั้นนำท่านชม วัดศรีปรมนันทะ หรือวัดจุฬาลงกรณ์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก เรือพระที่นั่งมหาจักรี ซึ่งเป็นเรือพระนั่งในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งนั้น ได้หยุดแวะที่เมืองกอลล์ เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2440 (ค.ศ. 1897) เสด็จเยือนวัดนี้และทรงวางศิลาฤกษ์ก่อสร้าง “จุฬาลงกรณ์ธรรมศาลา” เมื่อครั้งเสด็จฯ ในครั้งแรก เมื่อปี 2440 ได้เสด็จไปนมัสการวัดในเมืองกอลล์ 2 วัด ได้แก่ วัดศรีปรมนันทะ และ วัดคงคาราม หลังจากนั้นพระองค์ได้เสด็จต่อไปยังป้อมปราการเมืองกอลล์ (Galle Fort) ที่อยู่ริมทะเล ก่อนที่จะเสด็จกลับไปยังเรือพระที่นั่ง มหาจักรี เพื่อเสด็จฯต่อไปยังกรุงโคลัมโบ
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง โคลัมโบ (Colombo) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง นำท่านชม วัดทีปทุตตมาราม (Dipaduttamarama Purana Thai Raja Maha Viharaya) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2318 วัดนี้มีความสำคัญต่อชุมชนชาวพุทธในศรีลังกาซึ่งได้ และได้พัฒนาวัดในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2416 จนกลายเป็นวัดขนาดใหญ่ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศในยุคนั้น โดยวัดเป็นศูนย์กลางในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในศรีลังกา และโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ก็ได้เกิดขึ้นในยุคนี้ วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ลึกซึ้งกับประเทศไทยเนื่องจากพระชินวรวงศ์ (พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์) เคยเป็นเจ้าอาวาสระหว่างปี พ.ศ. 2448-2453 และได้รับการสถาปนาเป็นสังฆนายกแห่งนครโคลัมโบของนิกายรามัญและอมรปุระ ซึ่งนับเป็นชาวต่างชาติคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ วัดทีปทุตตมารามมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ คือ วิหารพระพุทธไสยาสน์ หอประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรัตนเจดีย์ ซึ่งเจดีย์นี้พระชินวรวงศ์เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2451 โดยเป็นศิลปะผสมผสานระหว่างอินเดีย ศรีลังกาและไทย โดยยอดฉัตรรัตนเจดีย์ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญสำหรับประวัติศาสตร์ระหว่างสยามกับศรีลังกา เมื่อเดือนมกราคม 2482 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จฯ เยือนศรีลังกา โดยได้เสด็จฯ ยังวัดทีปทุตตามาราม อันเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโคลัมโบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงปลูกต้นไม้มงคล คือ ต้นจันทน์ ต่อมาในปี 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ เยือนวัดทีปทุตตามาราม ในเดือนสิงหาคม 2542 สมเด็จพระเจ้า ลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ได้เสด็จฯ เยือนวัดทีปทุตตามารามเช่นกัน จากนั้นให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้ง ที่ เปตตา บาร์ซาร์ เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานบันดานารานัยเก เพื่อนำท่านเช็คอินเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
วันที่หก โคลัมโบ - กรุงเทพฯ
01.40 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา โดยสายการบิน ศรีลังกา แอร์ไลน์( Srilanka Airlines) เที่ยวบินที่ UL404 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง
06.35 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ 

รายละเอียดสินค้า 99KGH-UL-SRILANKA-6D4N

ข้อมูลติดต่อ
  • 99worldtravel
  • เขตชนะสงคราม กรุงเทพมหานคร
  • 02-3314146,0922518139
  • 24 ก.ย. 2557 13:45 น.


คำเตือน!! อย่าโอนเงิน มัดจำล่วงหน้า ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ควรนัดเจอกัน พื้นที่โล่ง ไม่ไปคนเดียว และตรวจสอบสินค้าก่อนชำระเงินทุกครั้งที่มีการซื้อขาย